วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ข่าวเกี่ยวกับ Software และ Technology











2. ข่าวเกี่ยวกับ Software และ Technology ที่นิยมใช้มากที่สุด และ Technology มีฐานผลิตที่ประ้ทศไหนผลิตเกี่ยวกับอะไร

  • ชมรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อความเท่าเทียมกัน เผยแพร่ผลการวิจัย ชี้ผู้ใช้งานกว่าร้อยละ 70 พอใจซอฟต์แวร์ชุดโปรแกรมสำนักงานโอเพนซอร์ส Apache OpenOffice 3.4 ด้วยยอดการดาวน์โหลดใช้งานแล้วกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก...
  • ชมรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อความเท่าเทียมกัน (ICT for All Club) เผยงานวิจัย โดยนายทศพนธ์ นรทัศน์ นักวิจัย ระบุว่า จากรายงานการสำรวจเมื่อปี ค.ศ. 2010 พบว่า ซอฟต์แวร์ชุดโปรแกรมสำนักงานที่ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในโลก คือ Microsoft Office ร้อยละ 72 รองลงมาคือ OpenOffice.org ร้อยละ 21.5 (ปัจจุบันคือ Apache OpenOfficeTM) และอื่นๆ ร้อยละ 6.5 (Webmasterpro, 2010) ซึ่งส่วนแบ่งตลาดของ Microsoft Office ลดลงประมาณร้อยละ 23 จากที่เคยครองส่วนแบ่งการตลาด ร้อยละ 95 เมื่อปี ค.ศ. 2006 (Hamm, 2006) แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์มีแนวโน้มที่จะใช้ชุดโปรแกรมสำนักงาน OpenOffice และอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น แต่ยังอยู่ในอัตราที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับ Microsoft Office โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานในเชิงธุรกิจหลายๆ ประเทศ ได้พยายามลดการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ โดยส่งเสริมการใช้และพัฒนาซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส โดยเฉพาะซอฟต์แวร์ชุดโปรแกรมสำนักงาน OpenOffice.org (ปัจจุบันคือ Apache OpenOfficeTM) หรือซอฟต์แวร์ที่พัฒนาต่อยอดจากซอฟต์แวร์ดังกล่าว เช่น LibreOffice ในประเทศอย่างจริงจัง เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลี ไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม เป็นต้น ทำให้ลดการพึ่งพาซอฟต์แวร์จากต่างประเทศ และเป็นการยกระดับขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก
  • สำหรับปริมาณการใช้ซอฟต์แวร์ชุดโปรแกรมสำนักงาน OpenOffice.org org (ปัจจุบันคือ Apache OpenOffice) หรือซอฟต์แวร์ที่พัฒนาต่อยอดจากซอฟต์แวร์ดังกล่าว เช่น LibreOffice แม้จะไม่มีตัวเลขที่แน่ชัดในประเทศไทย เนื่องจากซอฟต์แวร์ดังกล่าวเปิดโอกาสให้บุคคล หรือองค์กรสามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่จากประมาณการโดยอนุมานจากผลการสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในสถานประกอบการ พ.ศ. 2553 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (2554: v, 8-9 ) พบว่า มีสถานประกอบการประมาณ 2,157,907 แห่ง โดยเป็นสถานประกอบการที่มีการใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหารจัดการภายในของ สำนักงานส่วนหลัง (Back Office) จำนวน 414,210 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 81.8 ของสถานประกอบการที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในจำนวนนี้มีการใช้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ร้อยละ 2.5 หรือประมาณ 10,355 แห่ง โดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้ในสถานประกอบการที่มีบุคลากรมากกว่า 200 คนขึ้นไป โดยปรากฏในสถานประกอบการที่เป็นโรงพยาบาลมากที่สุด
  • การเปลี่ยนจากซอฟต์แวร์จากชุดโปรแกรมสำนักงาน Microsoft Office ไปเป็นซอฟต์แวร์ชุดโปรแกรมสำนักงาน OpenOffice.org ขนาดใหญ่ครั้งแรกของประเทศไทยเกิดขึ้นที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2549 ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในองค์กรธุรกิจอื่นๆ เช่น การเคหะแห่งชาติ บริษัท เอส แอนด์ พี ชินดิเคท จำกัด (มหาชน) บริษัท ดี เอช เอ สยามวาลา จำกัด บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ฯลฯ (Samphan Raruenrom, 2010) ตัวอย่างความสำเร็จของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งได้เปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์ OpenOffice.org โดยติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ประมาณ 7,000 เครื่อง ช่วยให้ทาง กฟผ. ประหยัดงบประมาณค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ได้มากกว่า 70 ล้านบาท แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการสอนการใช้งานให้พนักงานอย่างต่อเนื่อง (พิสิษฐ์ อิงคสุวรรณ, ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนเทคโนโลยีสารสนเทศ กฟผ., 2554: 44-48)
  • จากรายงานการวิจัยของผู้เขียน เรื่อง “ปัจจัยความสำเร็จของการเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์ชุดโปรแกรมสำนักงาน OpenOffice.org” โดยสุ่มตัวอย่างผู้ใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าว จากองค์กรธุรกิจที่เปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์ OpenOffice.org เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี จำนวน 5 องค์กร (นับถึงเดือน ธ.ค.2553) จำนวน 497 คน พบว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อซอฟต์แวร์ OpenOffice.org (ปัจจุบัน คือ Apache OpenOfficeTM) และเห็นว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรองรับงานขององค์กรได้ แม้จะไม่ดีเท่ากับ Microsoft Office แต่การนำซอฟต์แวร์ดังกล่าวมาใช้งาน ก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ได้เป็นจำนวนมาก และผู้ใช้ส่วนใหญ่ยินดีจะแนะนำให้คนที่รู้จัก หรือองค์กรอื่นเปลี่ยนมาใช้ OpenOffice.org หรือซอฟต์แวร์ที่พัฒนาต่อยอดจากซอฟต์แวร์ดังกล่าว เช่น LibreOffice
  • ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างทุกตำแหน่งงานส่วนใหญ่ ร้อยละ 72.43 สนับสนุนให้องค์กรใช้ซอฟต์แวร์ OpenOffice.org ต่อไป ส่วนผู้ใช้อีกร้อยละ 26.76 ต้องการให้องค์กรเปลี่ยนกลับไปใช้ Microsoft Office ผู้ใช้ร้อยละ 2.62 ต้องการให้องค์กรไปใช้ซอฟต์แวร์ชุดโปรแกรมสำนักงาน LibreOffice ซึ่งปัจจุบันเป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาต่อยอดจาก OpenOffice.org และเริ่มที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย เมื่อพิจารณาจากประโยชน์ที่องค์กรธุรกิจจะได้รับจากการนำซอฟต์แวร์ชุดโปรแกรมสำนักงานโอเพน ซอร์ส มาใช้งาน ได้แก่ ลดค่าใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์ขององค์กร เมื่อเปลี่ยนมาใช้ OpenOffice.org ทดแทนซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ ลดค่าใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์ขององค์กรเมื่ออัพเกรดเวอร์ชั่น ลดการละเมิดลิขสิทธิ์ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่องค์กรประกอบกับฝ่ายโอเพนซอร์ส สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า http://ThaiOpenSource.org หรือ www.sipa.or.th ได้ประกาศว่าจะระดมสรรพกำลังกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ให้ได้มากที่สุด โดยการให้คำปรึกษาในการเปลี่ยนมาใช้งานซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สและการใช้ ซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานและองค์กรธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนมาให้งานซอฟต์แวร์โอ เพนซอร์สได้รวดเร็ว เข้าใจการบริหารจัดการซอฟต์แวร์ในองค์กร จัดการเรื่องต้นทุนเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ได้ อีกทั้งยังลดอัตราการเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ รวมถึงการให้บริการฝึกอบรมการใช้งาน การประยุกต์ใช้งานซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ให้กับองค์กรต่างๆ
  • ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ชุดโปรแกรมสำนักงานโอเพนซอร์ส (OpenOffice.org) ส่วนใหญ่ ประมาณร้อยละ 70 ในองค์กรธุรกิจ เห็นว่าซอฟต์แวร์ดังกล่าวมีประสิทธิภาพที่ดีพอ จะแนะนำให้องค์กรอื่น หรือบุคคลที่รู้จักเปลี่ยนมาใช้ด้วย
  • จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าซอฟต์แวร์ชุดโปรแกรมสำนักงานโอเพนซอร์สอย่าง OpenOffice.org (ปัจจุบันคือ Apache OpenOffice 3.4 ที่มีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานแล้ว มากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก) หรือ LibreOffice (ปัจจุบันคือ LibreOffice 3.5.3) มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในองค์กรธุรกิจ ที่มีบุคลากรมากกว่า 200 คนขึ้นไป เนื่องจากซอฟต์แวร์มีขีดความสามารถเพียงพอ ที่จะรองรับงานโดยทั่วไปขององค์กร และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ลดได้สามารถนำไปซื้อฮาร์ดแวร์ หรือพัฒนาองค์กร พัฒนาบุคลากรให้ประสิทธิภาพและคุณภาพยิ่งขึ้น. สามารถ ไอ-โมบาย แถลงข่าว ไอ-โมบายเผยโฉมสมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ “i-mobile i-STYLE” และแท็บเลต “i-note WiFi” บริษัท
  •  สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) จัดงานเปิดตัวโทรศัพท์มือถือไอ-โมบาย รุ่นใหม่ที่มีฟังก์ชั่นคุ้มค่าคุ้มราคา โดยรุ่นไฮไลท์ที่เปิดตัว ได้แก่ กลุ่มสมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ 3จี ใช้งาน2ซิม “i-mobile i-STYLE 1, i-STYLE 2, i-STYLE Q1, i-STYLE Q2” และแท็บเลตพีซี แอนดรอยด์ 4.0 “i-note WiFi” เครื่องแรก นอกจากนี้ยังยกขบวนมือถือมัลติมีเดียที่ตอบสนองการใช้งานโซเชียลแชตครบทุกเซกเมนต์ ได้แก่ i-mobile Hitz , i-mobile ZAA , i-mobile idea พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเลตทุกรุ่น กับโปรโมชั่นผ่อนสบายๆ 0เปอร์เซ็นต์นาน 6 เดือน และรับแพ็กเกจซิมการ์ด i-mobile 3GX ใช้งานฟรี 500 MB นานถึง 6 เดือน สำหรับใช้งานร่วมกับมือถือระบบ3จี พร้อมพบแขกรับเชิญพิเศษที่มาร่วมสร้างสีสันที่บูธ ไอ-โมบาย

    เทคโนโลยีมีฐานการผลิตที่ประเทศอะไรบ้าง

    1.ประเทศจีน
    2.ประเทศเยอรมัน
    3.ประเทศฟินแลนด์
    4.ประเทศอาเซอร์ไบจัน
    อ้างอิง
    http://m.thairath.co.th/content/tech/260794

บทที่ 3





แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 3 ซอฟต์แวร์และภาษาคอมพิวเตอร์

1. ซอฟต์แวร์ประยุกต์เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการอย่างไรบ้าง จงอธิบาย ซอฟต์แวร์ประยุกต์หรือ application software จะถูกติดตั้งและทำงานบนระบบปฏิบัติการ เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ ซอฟต์แวร์กลุ่มนี้มีทั้งประเภทสามารถหาซื้อมาใช้ได้เองตามท้องตลาดและพัฒนาขึ้นมาใช้เองเฉพาะกรณี 
2.ระบบปฏิบัติการโดยทั่วไป มีกี่ประเภท จงยกตัวอย่างประ
กอบ
  • ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว
นิยมใช้สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำงานแบบทั่วไป เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ตามบ้านหรือสำนักงาน ซึ่งจะถูกติดตั้งระบบปฏิบัติการนี้ไว้รองรับการทำงานบางอย่าง เช่น พิมพ์รายงาน ดูหนัง ฟังเพลง หรือเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ตเป็นต้นมุ่งเน้นการให้บริการกับผู้ใช้ได้หลายๆคน นิยมใช้สำหรับการประมวลผลงานข้อมูลสำหรับเครือข่ายโดยเฉพาะ มักพบเห็นได้กับการนำไปใช้ในองค์กรธุรกิจทั่วไป เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการเหล่านี้จะเรียกว่า เครื่องแม่ข่าย ซึ่งจะให้บริการข้อมูลต่างๆที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้นั่นเอง
- ระบบปฏิบัติการแบบฝัง
มักพบเห็นได้กับอุปกรณ์พกพาขนาดเล็ก เช่น พีดีเอหรือสมาร์ทโฟน บางรุ่นสามารถช่วยในการทำงานแบบเคลื่อนที่ได้เป็นอย่างดี เป็นระบบปฏิบัติการที่เกิดขึ้นมาหลังสุด บางระบบมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว เช่น รองรับกับการทำงานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลงหรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้


3. ระบบปฏิบัติการแบบฝัง( Embedded OS ) คืออะไร นิยมใช้กับอุปกรณ์ประเภทใด  จงอธิบาย
  •  เป็นระบบปฏิบัติการชนิดหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกับอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถหลากหลายไม่ใช่เพียงแค่รับ-สายพูดคุยกันในแบบทั่วไปได้อย่างเดียว แต่ยังทำงานอย่างอื่นได้ เช่น การบันทึกการนัดหมาย ท่องเว็บ ส่งและรับอีเมล์รวมถึงรับแฟกซ์ได้ในเวลาเดียวกัน เป็นต้น
4. โปรแกรมป้องกันไวรัส มีความสำคัญอย่างไรบ้าง

7. ซอฟต์แวร์แบบกลุ่ม (Software Suite) คืออะไร
  •  ซอฟต์แวร์ที่นำเอาคุณสมบัติต่างๆของโปรแกรมแต่ละตัวมาจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันแล้วทำการจำหน่ายรวมทีเดียว ซอฟต์แวร์กลุ่มนี้ที่รู้จักกันดีคือ Microsoft Office, Adobe CS, Macromedia Studioเป็นต้น ซึ่งทำให้การใช้งานมีความง่ายและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพราะโปรแกรมที่นำเอามารวมกันนั้นจะมีคุณสมบัติที่จัดอยู่ในกลุ่มการทำงานแบบเดียวกัน อีกทั้งยังทำให้มีราคาถูกลงกว่าการแยกซื้อซอฟต์แวร์แต่ละตัวมาใช้ด้วย
8.นางสาวศิริพรต้องการทำรายงานการรับจ่ายเงินในแต่ละวันอย่างง่าย ควรใช้โปรแกรมประเภทใด จงอธิบาย




  •  ควรใช้โปรแกรมประเภทตารางคำนวณ ซึ่งสามารถสร้างรายงานการรับ-จ่ายเงินประจำวันอย่างง่ายๆได้ โดยป้อนข้อมูลและตัวเลขค่าใช้จ่ายที่ต้องการลงไปในแผ่นตารางคำนวณนั้นและสามารถหาผลลัพธ์อย่างง่ายๆพร้อมทั้งพิมพ์รายงานสรุปยอดหรือเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่างๆออกมาเป็นกราฟได้
9. Internet Ralay Chat คืออะไร แตกต่างต่าง Instant Messaging อย่างไรบ้าง
  • เป็นโปรแกรมประเภทที่ใช้สำหรับสนทนากลุ่ม โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกกลุ่มที่จะสนทนาได้ตามต้องการ สามารถตอบโต้กันได้ได้ด้วยข้อความและคนอื่นๆในห้องสนทนาสามารถเห็นข้อความนั้นได้พร้อมๆกัน เหมือนกับการพูดคุยในที่สาธารณะทั่วไป นอกจากนั้นยังสามารถเลือกสนทนาเพียงรายคนหรือเฉพาะตัวได้ แต่โปรแกรมประเภทส่งข้อความด่วนหรือ instant messagingอาจมีวัตถุประสงค์ของการใช้งานที่แตกต่างจาก IRC บ้างคือ มุ่งเน้นให้ใช้งานเพื่อส่งหรือฝากข้อความที่ต้องการได้แบบทันทีและนิยมใช้สนทนากันแบบรายบุคคลมากกว่า
10. โปรแกรมประเภทการนำเสนองาน เหมาะสมกับกลุ่มคนประเภทใด จงให้เหตุผลประกอบ
  • เหมาะสมกับการนำเสนอขายสินค้าของนักขายมืออาชีพ ครู อาจารย์หรือวิทยากรที่ต้องการนำเสนองานให้มีความโดดเด่นและน่าสนใจ เนื่องจากสามารถใส่เทคนิคการนำเสนอผลงานต่างๆเข้าไปได้มากกว่า ทำให้ผู้เข้าชมการนำเสนอดังกล่าวรับรู้ผลิตภัณฑ์หรือสร้างการจดจำได้ง่ายกว่า
11.ในการเรียกดูข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต โปรแกรมใดที่นิยมใช้กันมากที่สุด และมีคุณสมบัติเด่นๆอะไรบ้าง
  • โปรแกรมประเภทบราวเซอร์ จะถูกนำมาใช้ในการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมากที่สุด โดยสามารถแสดงผลลัพธ์ออกมาได้ทั้งที่อยู่ในรูปของตัวอักษรธรรมดา ภาพกราฟฟิก ภาพเคลื่อนไหว รวมถึงข้อมูลประเภทเสียง
12. จงยกตัวอย่าง web application ที่นักศึกษารู้จักหรือใช้บริการอยู่ในปัจจุบันมาอย่างน้อย 3 ตัวอย่างพร้อมทั้งอธิบายหลักการทำงานด้วย
  •  Web application ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ยกตัวอย่างได้ดังนี้
1. Web base mail2. Bulletin board
  • เป็นโปรแกรมกระดานข่าว ที่มีไว้สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ หรือสอบถามข้อมูลที่สนใจ โดยจะมีคนมาตอบคำถามหรือพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ โดยจะแสดงคำถามหรือหัวข้อที่มีการโพสต์ไว้ให้ผู้เข้าชมเห็นหรืออ่านได้ทุกคน บางระบบอาจจะมีการสงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกได้
3. Guest book
  • เป็นโปรแกรมบนเว็บอีกประเภทหนึ่ง มักใช้สำหรับการลงบันทึกการเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซท์นั้นๆคล้ายกับกระดานข่าว แต่ไม่นิยมใช้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่มุ่งเน้นให้เขียนข้อความถึงเจ้าของเว็บไซท์หรือทีมงานนั้นๆมากกว่า
13. ผู้ที่ทำงานด้านออกแบบและจัดการ website เช่น webmaster ควรจะเลือกใช้โปรแกรมอะไรบ้างเพื่อช่วยเหลือ
และสนับสนุนในการทำงาน จงอธิบาย
  • งานทางด้านการออกแบบและจัดการ website อาจจำเป็นต้องใช้โปรแกรมเพื่อช่วยเหลือการทำงานดังต่อไปนี้
1. โปรแกรมสำหรับออกแบบเว็บ
  • เพื่อใช้สำหรับการสร้างรูปแบบของเว็บเพจที่ต้องการ รวมถึงการจัดวางโครงสร้างทั่วไปของแต่ละเว็บเพจ โดยสามารถเลือกใช้โปรแกรมที่มีอยู่ได้ตามความต้องการ ที่รู้จักกันดี เช่นMicrosoftFrontpage, Macromedia Dreamweaver, NetObject Fusion เป็นต้น
2. โปรแกรมสำหรับส่งถ่ายข้อมูล
  • เพื่อให้การส่งข้อมูลไปเก็บไว้ยังเครื่องแม่ข่ายที่ให้บริการหรือ web server สามารถทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น อาจเลือกใช้โปรแกรมที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างดี เช่น Cute_FTP, WS_FTPเป็นต้น
3. โปรแกรมตกแต่งภาพทั่วไป
  • ใช้สำหรับการตกแต่งภาพที่จะนำไปใช้เผยแพร่บนเว็บไซท์ให้มีความสวยงามและน่าสนใจ อาจเลือกใช้จากโปรแกรมที่มีความสามารถหลากหลายและเป็นที่นิยมกันเป็นอย่างดี เช่น Adobe Photoshopเป็นต้น
14. ซอฟต์แวร์ประเภท Open Source คืออะไร
  •  คือกลุ่มของซอฟต์แวร์ที่มีการเปิดเผยโค้ดที่ใช้สำหรับเขียนให้คนทั่วไปสามารถนำเอาไปใช้หรือพัฒนาต่อได้ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อแต่อย่างใด ทั้งนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดด้วย ซึ่งโค้ดที่ได้มานั้นจะมาจากการพัฒนาด้วยทีมงานที่หลากหลายทั่วโลก โดยไม่ได้มุ่งหวังผลทางการค้าแต่อย่างใด
15. ภาษาระดับสูงมาก หรือ very-high level language มีหลักการทำงานอย่างไรบ้าง
  •  ภาษาการเขียนโปรแกรมกลุ่มนี้จะช่วยให้รูปแบบการเขียนโปรแกรมทำได้ง่ายขึ้น โดยอาจใช้เพียงแค่หยิบหรือวางปุ่มคำสั่งบางอันลงไป โดยที่ผู้เขียนโปรแกรมอาจจะรู้เพียงแค่ว่าจะให้คอมพิวเตอร์ทำอะไรบ้างเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทราบว่ามันจะทำได้อย่างไร เพราะถือเป็นหน้าที่ของภาษาระดับสูงมากนั้นคอยจัดการแทนเอง ทำให้สร้างคำสั่งหรือรูปแบบหลักๆได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาในการอบรมการเขียนโปรแกรมมากนัก เพียงแต่ใช้ความรู้พื้นฐานในการเขียนเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเอามาใช้ได้เลยทันที
16 จงยกตัวอย่างของการนำเอาภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 5 ไปใช้งาน มาอย่างน้อย 2 ตัวอย่างพร้อมทั้งอธิบายประกอบ
  • ตัวอย่างของการนำเอาภาษาคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 5 ไปใช้ เช่น
  •  ระบบหุ่นยนต์
โดยการสร้างความรู้และการจำไว้ในตัวหุ่นยนต์หรือเครื่องจักรที่ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อสั่งการให้ทำงานบางอย่างที่ต้องการ
  •  ระบบการสั่งงานด้วยเสียง
อาศัยหลักการป้อนข้อมูลด้วยเสียงแทนการพิมพ์หรือป้อนข้อมูลผ่านคีย์บอร์ดเข้าไปตรงๆ เพื่อช่วยให้การทำงานมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
  •  เป็นโปรแกรมยูทิลิตี้ชนิดหนึ่ง ที่ใช้สำหรับป้องกันปัญหาเกี่ยวกับไวรัสคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดีซึ่งโดยปกติมักจะมีการติดตั้งโปรแกรมนี้ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับระบบเครือข่ายหรือการทำงานกับบุคคลอื่นหลายๆคน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเสมือนยามคอยตรวจสอบดูแลระบบทั่วไปว่ามีปัญหาใดๆเกิดขึ้นหรือไม่ และจะแก้ปัญหาหรือกำจัดไวรัสดังกล่าวได้อย่างไร ทำให้การใช้งานคอมพิวเตอร์มีความปลอดภัยและราบรื่นมากยิ่งขึ้น
5. นายอภิชาติต้องการเก็บข้อมูลหลายๆไฟล์ เป็นอันเดียวกันและให้มีขนาดที่เล็กลง ควรจะใช้โปรแกรมประเภทใด จงอธิบาย
  •  ควรใช้โปรแกรมประเภทบีบอัดไฟล์ ซึ่งจะทำหน้าที่บีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็กลง และเก็บไฟล์เป็นชิ้นงานเดียวกัน เมื่อต้องการใช้งานก็สามารถแตกหรือแยกไฟล์ออกมาภายหลังได้ ตัวอย่างของยูทิลิตี้ที่นิยมใช้และรู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น PKZip, WinZip เป็นต้น
6. ซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งานด้านธุรกิจประเภท Word Processing ที่นักศึกษารู้จักมีอะไรบ้าง จงยกตัวอย่างประกอบอย่างน้อย 3 โปรแกรม
    1. โปรแกรมประเภท word processing หรือโปรแกรมประมวลคำที่ได้รับความนิยมและรู้จักกันเป็นอย่างดี พอจะยกตัวอย่าง 3 โปรแกรมดังนี
    1. Microsoft Word
    2. Sun Star Office Writer
    3. Pladao  Office Write


  • ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย


  •  สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ 

  • เป็นโปรแกรมสำหรับใช้งานรับ-ส่งอีเมล์ผ่านเว็บไซท์ที่ให้บริการ โดยเข้าไปใช้งานได้ตลอดเวลาและทุกๆสถานที่ สะดวกต่อการใช้งานเพราะไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมอ่านเมล์ เพียงแค่ป้อนชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านเข้าไปในระบบ ก็สามารถใช้งานได้แล้ว

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

บทที่ 2

บทที่ 2 


1.องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์มีกี่ประเภทอะไรบ้าง
ตอบ องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์มี 4 ประเภท 
1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง สิ่งที่มองเห็นและจับต้องสัมผัสได้ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ (Case) เมนบอร์ด (Mainboard) และอุปกรณ์ต่อพ่วงรอบข้าง (Peripheral) ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฮาร์ดดิสก์ แป้นพิมพ์ เม้าส์ หน่วยประมวลผลกลาง จอภาพ เครื่องพิมพ์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ฮาร์ดแวร์จะไม่สามารถทำงานด้วยตัวเองเดี่ยว ๆ ได้ จะต้องนำมาต่อเชื่อมเพื่อทำงานร่วมกันเป็นระบบที่เรียกว่า "ระบบคอมพิวเตอร์ (Computer System)" ที่มีโครงสร้างของระบบจะทำงานตามโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้น
2. ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง โปรแกรม (Program) หรือชุดคำสั่งที่ควบคุมให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ซึ่งคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ที่ประกอบออกมาจากโรงงานจะยังไม่สามารถทำงานได้ในทันที ต้องมีซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงานตามต้องการได้ โดยโปรแกรมหรือชุดคำสั่งนั้นจะเขียนจากภาษาต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น เรียกว่า ภาษาคอมพิวเตอร์ (Programming Language) ภาษาใดภาษาหนึ่ง และมีโปรแกรมเมอร์ (Programmer) หรือนักเขียนโปรแกรมเป็นผู้ใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเขียนซอฟต์แวร์แบบต่าง ๆ ขึ้นมา
ซอฟต์แวร์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1) ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่จัดการและควบคุม ทรัพยากรต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ และอำนวยความสะดวกด้านเครื่องมือสำหรับการทำงานพื้นฐานต่าง ๆ ตั้งแต่ผู้ใช้เริ่มเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ การทำงานจะเป็นไปตามชุดคำสั่งที่เขียนขึ้น ตลอดจนควบคุมการสื่อสารข้อมูลในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
2) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่สร้างหรือพัฒนาขึ้น เพื่อใช้งานด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะตามที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น งานด้านการจัดทำเอกสาร การทำบัญชี การจัดเก็บข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนงานด้านอื่น ๆ ตามแต่ผู้ใช้ต้องการ
3. ข้อมูล/สารสนเทศ (Data/Information) คือ ข้อมูลต่างๆ ที่เรานำมาให้คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผลคำนวณ หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้มาเป็นผลลัพธ์ที่เราต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลบุคลากรเกี่ยวกับรายละเอียดประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษาหรือ ประวัติการทำงาน ซึ่งอาจนำมาจำแนกเป็นรายงานต่างๆ เกี่ยวกับบุคลากรในหน่วยงานได้ หรือข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขมาตรๆ ไฟฟ้าของบ้านแต่ละหลัง ก็ใช้สำหรับคำนวณเป็นปริมาณไฟฟ้า ที่ใช้ในแต่ละเดือน แล้วคิดเป็นเงิน ที่จะต้องชำระให้กับการไฟฟ้าฯ
4. บุคคลากร (Peopleware) คือ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต่างๆ และผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในหน่วยงานนั้นๆ บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์นั้น มีความสำคัญมาก เพราะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ นั้นจะต้องมีการจัดเตรียมเปลี่ยนระบบ จัดเตรียมโปรแกรมดำเนินการต่างๆ หลายอย่าง ซึ่งไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ ถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์มากนัก เราจึงถือว่าบุคลากร เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของ ระบบคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งสามารถสรุปเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
- เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ (Operator)
- บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับระบบ (System)
- ผู้จัดการศูนย์ประมวลผลคอมพิวเตอร์ (Electronic Data Processing Manager)
- ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ (Computer user)
อ้างอิง http://www.comsimple.com/

2. Data หมายถึง

ตอบ Data หมายถึง ข้อเท็จจริงที่เราสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือ เหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งข้อมูลสามารถหาได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ คอมพิวเตอร์ หรือสิ่งรอบๆ ตัว


3. Information หมายถึง


ตอบ Information หมายถึง ข้อมูลที่ได้ผ่านการประมวลผลด้วยวิธีการที่เหมาะสม และถูกต้อง จนได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ อยู่ในรูปแบบที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ และอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องการของผู้ใช้


4. INPUT Device มีอะไรบ้าง


ตอบ INPUT Device มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่สามารถอ่านข้อมูลและส่งข้อมูลเข้าไปเก็บในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เพื่อให้ทำการประมวลผลต่อไป โดยอุปกรณ์นี้จะส่งข้อมูลหรือโปรแกรมไปยังหน่วยความจำก่อนถ้าเป็นคอมพิวเตอร์เมนเฟรม ก็จะมีหลายชนิด เป็นต้นว่า หน่วยขับจานบันทึกหน่วยขับแถบบันทึก เครื่องกราดภาพ ฯ ถ้าเป็นไมโครคอมพิวเตอร์ ก็รวมถึงแป้นพิมพ์ เมาส์ ฯลฯ


5. OUTPUT Device มีอะไรบ้าง


ตอบ output device มี จอภาพ เครื่องพิมพ์ พล็อตเตอร์ รวมทั้งหน่วยขับจานบันทึก

แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 1


แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 1


1. ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปประกอบด้วยอะไรบ้าง จงอธิบาย


- ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting) จัดเก็บหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบของสัญญาณไฟฟ้า จะประมวลผลการทำงานแบบอัตโนมัติภายใต้คำสั่งที่กำหนดไว้


- ความเร็ว (Speed) จะประมวลผลงานด้วยความเร็วสูง


- ความถูกต้องแม่นยำ (Accuracy) จะให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง แม่นยำและมีความผิดพลาดน้อย


- ความน่าเชื่อถือ (Reliability) จะประมวลผลของคอมพิวเตอร์มีความน่าเชื่อถือและสามรถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆได้ โดยเฉพาะปัจจุบันซึ่งมีฮาร์ดแวร์จะประมวลผลมีความผิดพลาดต่ำมากหรือแทบไม่เกิดเลย


- การจัดเก็บข้อมูล (Storage Capability) สามารถจัดเก็บข้อมูลได้หลายรูปแบบทั้งข้อมูลที่เป็นข้อความธรรมดาหลายๆล้านตัว เพลง ภาพถ่าย วีดีโอ หรือไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่จำนวนมาก


- ทำงานซ้ำๆได้ (Repeatability) ทำงานซ้ำๆกันหลายรอบลดความผิดพลาดต่างๆ สามารถคำนวณหาผลลัพธ์ของงานที่มีลักษณะซ้ำๆ เช่น การทำรายการสินค้าเข้า-ออกในระบบสินค้าคงคลังที่เกิดขึ้นเป็นประจำ การบันทึกรายการบัญชีประจำวัน


- การติดต่อสื่อสาร(Communication) สามารถเชื่อมโยงเข้าหากันเป็นเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นในองค์กรเล็กๆหรือระดับเครือข่ายใหญ่ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ทำให้การประมวลผลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


2. เครื่อง Suan-pan เกี่ยวข้องกับประวัติของคอมพิวเตอร์อย่างไร จงอธิบาย


- เครื่องมือช่วยนับเพื่อให้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น เรียกว่า ลูกคิด (abacus) มีการนำเอาลูกคิดนี้ไปใช้ในเชิงการค้ามากขึ้นและแพร่หลายไปยังหลายๆประเทศ


3. แท่งคำนวณของเนเปียร์ (Napier’S bone) สร้างขึ้นมาโดยใคร และมีหลักการทำงานอย่างไร


- นักคณิตศาสตร์ชาวสก็อตชื่อ จอห์น เนเปียร์ (John Napier) เมื่อต้องการคูณตัวเลขใดๆก็จะเอาตัวเลขนั้นๆมาวางเรียงต่อกัน แล้วใช้แท่งดรรชนี (Index) เป็นหลักที่ใช้ในการหาผลลัพธ์จากการคำนวณมาวางไว้ด้านหน้า จากนั้นนำมาเทียบเคียงให้ตรงกับตัวเลขนั้นแล้วทำการคูณและหาผลลัพธ์


4. ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น “บิดาของคอมพิวเตอร์” คือใคร และเหตุใดจึงได้รับการยกย่องเช่นนั้น


- ชาจลส์ แบบเบจ (Charles Babbage) สร้างเครื่องจักรกลชนิดใหม่ เรียกว่า Analytical Engine เพื่อคำนวณงานแทบทุกชนิดและต้องทำงานตามคำสั่งได้ (programmable) โดยอาศัยแนวคิดของแจคกการ์ดที่เอาบัตรเจาะรูมาช่วยควบคุมลายการทอผ้าให้ได้ตามแบบ อาศัยองค์ประกอบการทำงานดังนี้


- Input Device อาศัยบัตรเจาะรูนำข้อมูลเข้าสู่ตัวเครื่อง


- Arithmetic Processor ทำหน้าที่คำนวณเพื่อหาผลลัพธ์


- Control Unit ควบคุมและตรวจสอบงานได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องหรือไม่


- Memory เก็บตัวเลขเพื่อรอการประมวลผล


5. เครื่องคอมพิวเตอร์แบบดิจิตอลเครื่องแรกของโลกคือเครื่องใด และอธิบายว่าสร้างขึ้นมาด้วยเหตุผลใด


- เครื่อง ENIAC (Electronics Numerical Integrator and Computer) ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพสหรัฐอเมริกาให้ออกแบบสร้างคอมพิวเตอร์เอาไว้สำหรับช่วยคำนวณวีถีกระสุนปืนใหญ่


6. John Von Neumann มีบทบาทอย่างไรเกี่ยวกับประวัติคอมพิวเตอร์


- พัฒนาเครื่องที่สามารถเก็บข้อมูลและชุดคำสั่งไว้ใน (stored program) โดยไม่ต้องป้อนข้อมูลเข้าใหม่ทุกครั้ง


7. เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ใช้ในเชิงธุรกิจ คือเครื่องใดและนำมาใช้กับงานด้านใด


- เครื่อง UNIVAC (UNIVersel Automatic Computer) โดยนำมาใช้สำหรับทำนายผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 34 ของสหรัฐอเมริกา


8. ทรานซิสเตอร์กับแผงวงจรเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง จงอธิบาย


- แตกต่างกัน ทรานซิสเตอร์มีขนาดเล็กใช้กระแสไฟที่น้อยกว่าแยกเป็นตัวๆทำให้ต้นทุนผลิตสูงมาก แผงวงจรที่เรียกว่า IC จะสามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ได้มากถึง 1,000 ตัว การผลิตจำหน่ายโดยตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลง เรียกว่า “มินิคอมพิวเตอร์” ใช้กระแสไฟฟ้าน้อยกว่าเดิม


9. E-Government คืออะไรจงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ


- การนำเอาคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้กับงานทะเบียนราษฎร์ของภาครัฐ เช่น การแจ้งเกิด ตาย ย้ายที่อยู่ เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัวอื่นๆหรือทำบัตรประจำตัวประชาชน


10. สายการบินต้นทุนต่ำ (low cost airline) คืออะไร และมีการลดต้นทุนโดยนำเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยได้อย่างไรบ้าง จงอธิบายประกอบ


- การพยายามลดต้นทุนในเรื่องการให้บริการและสำรองที่นั่งโดยใช้แรงงานคน จึงนำเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยและได้มีการพัฒนาระบบสำรองที่นั่งโดยให้ลูกค้าทำการจองที่นั่งได้ด้วยตนเองผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือที่เรียกว่า E-Booking ทำให้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ต้นทุนการดำเนินงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด


11. ลักษณะเด่นของสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนหรือ CAI คืออะไร แตกต่างอย่างไรกับสื่อการสอนในอดีต


- การสอนจะเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง คือ จะอยู่ในรูปแบบมัลติมีเดียที่ประกอบด้วยรูปภาพ บทบรรยาย เสียงพูด และเทคนิคการนำเสนอ


12. รูปแบบของ E-Banking สามารถทำได้โยผ่านช่องทางอะไรบ้าง จงอธิบายพร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบอย่างน้อย 3 ช่องทาง


- การทำธุรกรรมผ่านตู้เอทีเอ็ม ผ่านเครือข่ายเว็บไซต์ โทรศัพท์มือถือ เช่น ฝาก-ถอน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์และค่าบริการผ่อนชำระค่าสินค้าต่างๆ


13. คอมพิวเตอร์มือถือ (Handheld Computer) นำไปใช้ประโยชน์ในด้านใดและแตกต่างกับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer) อย่างไรบ้าง จงอธิบายประกอบ


- คอมพิวเตอร์มือถือ จัดการข้อมูลประจำวัน การสร้างปฏิทินนัดหมาย การดูหนัง ฟังเพลงรวมถึงการรับส่งอีเมล์ ไมโครคอมพิวเตอร์มีราคาถูกหาชื่อใช้ได้ทั่วไปมักพบเห็นในสำนักงานหรือบ้านพักอาศัยในรูปแบบของเครื่องพีซีตั้งโต๊ะและพกพา


14. แท็บเล็ต (Tablet PC) มีหลักการทำงานอย่างไรบ้าง จงอธิบายมาพอเข้าใจ


- สามารถป้อนข้อมูลเข้าไปโดยการเขียนบนจอภาพเหมือนการเขียนข้อความลงไปในสมุดโน้ตและเครื่องสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆเหล่านั้นเก็บไว้ได้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของเครื่องและโปรแกรมในแต่ละรุ่น บางเครื่องสามารถพลิกหน้าจอได้ 2 แบบ คือ เหมือนกับการใช้งานแบบโน้ตบุ๊คหรือเหมือนกับกระดานรองเขียน


15. PDA Phone คืออะไร จงอธิบายมาพอเข้าใจ


- คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กพกพาใส่กระเป๋าได้ใช้สำหรับอรรถประโยชน์ทั่วไป เช่น การใช้งานเพื่อธุรกิจ เป็นเครื่องช่วยบันทึกความจำต่างๆ สร้างรายการนัดหมาย ปฏิทิน สมุดโทรศัพท์ เป็นต้น


16. ภาษาธรรมชาติ (natural language) คืออะไร สามารถนำไปใช้ประโยชน์ด้านใดบ้าง


- การเข้าใจภาษาธรรมชาติของมนุษย์สามารถเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาช่วยในการสื่อสาร เช่น รับรู้และจดจำเสียง แยกแยะเสียงสูงต่ำ เน้นเสียงของคำหรือรูปแบบการการพูดได้โดยอัตโนมัติ

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความแตกต่างของ Thumb drive Flash Drive Handy drive



ความแตกต่างของ Thumb drive Flash Drive Handy drive


1.Thumb drive



Thumb drive เป็นชื่อทางการค้า คุณสมบัติเหมือน CD-R, Floppy Disk, Hard Disk เป็นหน่วยความจำ ที่เสริมเข้าไปในคอมพิวเตอร์ทาง Port USB และถือเป็นการเก็บข้อมูลรูปแบบใหม่ คือไม่ต้องมีตัวDrive ตัว Disk พกพาได้สะดวกมีขนาดเล็กเท่ากับหัวแม่มือ เป็นยุคแรกๆ ของอุปกรณ์จำพวก Flash Drive ความเร็วในการอ่าน เขียน ประมาณ 500KB/Sec มีความจุอยู่ระหว่าง 8 MB - 1024MB ในปัจจุบันอาจมีมากขึ้น สำหรับราคาในยุคแรกๆ ราคาสูง ขนาดความจุน้อย


2.Flash Drive



Flash Drive มีชื่อจริงว่า USB Mass Storage Device ส่วนใหญ่เรียกกันว่า USB Flash Memory Drive , USB Flash Drive Memory หรือ USB Flash Drive การใช้งานเชื่อมต่อกับ Computer ผ่านทาง Port USB ใช้ Flash Memory เก็บข้อมูล ทำงานเป็น Drive เหมือน HardDisk อ่านและบันทึกข้อมูลได้อย่างเดียวไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ ซึ่งเป็นยุคต่อมาจาก Thumb drives ราคาถูกลง ความจุมีมากขึ้น ขนาดของตัว Flash Drive เล็กลงด้วย บางยี่ห้อมีขนาดประมาณ 1 นิ้ว






3. Handy drive



Handy drive เป็นชื่อทางการค้า คุณสมบัติและการทำงานเหมือน Flash drive แต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือสามารถเล่นไฟล์ Mp3 ไฟล์วีดีโอ ไฟล์รูปภาพ ฟังวิทยุผ่านช่องเสียบหูฟัง และฟังก์ชันอื่นๆ ที่ผู้ผลิตจะใส่ลงไป ใช้แบตเตอรี่มีทั้งแบบใช้ถ่าน AA , AAA หรือถ่านชาตร์ ซึ่งจะชาตร์ถ่านผ่านทาง Port USBรูปลักษณ์สวยงาม แต่มีขนาดใหญ่กว่า Flash drive เนื่องจากต้องใช้แบตเตอรี่ สำหรับราคาแพงกว่าFlash drive อยู่บ้างเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานที่หลากหลาย






ที่มา: http://guru.google.co.th/